Pages

The diary of learning

สมุดบันทึกการเรียนรู้

Wednesday, November 21, 2012

Owl city - Vanilla twilight

สนธยาวานิลลา - vanilla twilight


     หลายคนพอฟังชื่อเพลงแล้วก็คงงงไปเหมือนกับผม ว่า  เอ๊ะ อะไร สนธยามาเกี่ยวอะไรกับวนิลา  วนิลาสื่อสัญลักษณ์อะไร...
     ยิ่งฟังเนื้อเพลงก็ยิ่งงง เพราะมีการเปรียบเทียบหลายอย่างมาก พร้อมดูเอ็มวี ก็ยิ่งงงเข้าไปอีกว่า อะไรจะอาร์ตปานนี้

     อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่า เพลงนี้เป็นเพลงเศร้าซึ้ง หวนนึกถึงแฟนที่จากไปของผู้แต่ง แต่จะจากไปอย่างไร ผมก็ไม่แน่ใจ ลองค้นหาหลายแหล่ง บางที่ก็บอกว่า ตีความเป็นการเสียชีวิต บางที่ก็แค่จากไปเฉยๆ
      ในที่นี้ผมจะอธิบายศัพท์บางคำแล้วกันนะครับ ส่วนเรื่องการตีความจะพยายามตีความอันที่คิดว่าชัดเจน ส่วนอันที่ไม่ชัดเจน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้อ่านทุกท่านแล้วกันนะคับ

     doze off คืองีบหลับ จาก 'cause I'll doze off safe and soundly, but I'll miss your arms around me
     จากประโยค I'd send a postcard to you, dear. Cause I wish you were here. คำว่า "I'd" "you were"สื่อถึงความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้ โดยอาจใช้ในลักษณะ
             : I wish I would be a millionaire.
     light blue น่าจะหมายถึงท้องฟ้าตอนเช้า I'll watch the night turn light blue. คือฉันดูพระอาทิตย์กำลังขึ้นส่องแสงตอนเช้าตรู่
     repose แปลว่า การนอน จาก I'll find repose in new ways ประโยคนี้น่าจะสื่อถึง ฉันพยายามนอนให้หลับปกติ แต่ทำไม่ได้เพราะคิดถึงเธอ
     nostalgia คืออาการคิดถึงอดีต จาก Cause cold nostalgia chills me to the bone. ความหนาวสื่อถึงความเหงา   ประโยคน่าจะสื่อ ความอาลัยอาวรณ์ถึงอดีตมันทำให้ฉันหนาวเข้าไปถึงกระดูก คือหนาวจนสุดใจเลย
     drench คือ ทำให้เปียกชื้้น
     vanilla twilight ไม่แน่ใจจะสื่อถึงอะไร อาจจะหมายถึงสีของท้องฟ้า เป็นสีวานิลลาของเย็นๆ  โดยประโยคถัดมาบอกว่า ฉันจะนั่งที่ ระเบียง porch  ตลอดค่ำคืน  และปล่อยตัวเองจมในความคิด waist-deep คือเปรียบเทียบว่าจมลึกถึงระดับเอว ให้คิดถึงเธอ จะได้ช่วยลดความเหงาลงบ้าง
     The violet eyes get brighter. violet eyes ไม่แน่ใจว่าจะหมายถึงอะไร บางที่บอกว่าเป็นดวงตาที่ช้ำจากการร้องไห้ ที่ตอนนี้หยุดร้องแล้ว  แต่ผมว่าน่าจะสื่อถึงได้ด้วยว่า เป็นพระอาทิตย์ที่กำลังฉายแสงวันใหม่ตามประโยค
     And heavy wings grow lighter. heavy wings อันนี้ก็เหมือนกัน มีตีความหลายแบบ บางคนบอกว่าเป็นความเสียใจหนักอึ้งที่กำลังดีขึ้น ขณะที่บางคนสื่อถึง เมฆครึ้มที่กำลังหายไป
      และทำให้ฉันได้สัมผัสท้องฟ้า และรู้สึกดีขึ้นอีกครั้ง กลับมามีชีวิตชีวาอย่างเคย
      I'll taste the sky and feel alive again.
     ขณะเดียวกัน เขาก็จบเพลงด้วยการบอกว่า ถึงยังไง ตอนนี้อาการเศร้าฉันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่มีทางลืมเธอ  และถ้าสามารถกลับไปบอกเธอในอดีตได้ ก็อยากให้เธอมาอยู่ข้างฉันตอนนี้

     จากการตีความที่อธิบายไป คิดว่า เพลงนี้ดำเนินเรื่องตามท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่คืนของวันหนึ่ง ผ่านตอนเช้า ตอนเย็นของวันนั้น ไปจนถึงคืนถัดไป และเช้าวันถัดไป ขณะเดียวกัน ท้องฟ้าก็สื่อถึงอารมณ์ต่างไปด้วย
     แต่ไม่ว่าจะตีความแตกต่างกันในรายละเอียดอย่างไร เพลงนี้ทำให้ผมเหงา ทรมานถึงหัวใจ เมื่อนึกถึงบรรยากาศ vanilla twilight ที่ฉันเหงาจนอยากจะไปบอกเธอว่า Oh darling, I wish you were here.
   

Thursday, November 8, 2012

60-second mind : How we process horrible sounds

เราประมวลผลของเสียงน่าขนลุกอย่างไร
ตอบ สมองเราต่อสายเชื่อมกับสัญญาณเตือนภัย!!! "hardwired"

http://www.scientificamerican.com/podcast/episode.cfm?id=how-we-process-horrible-sounds-12-10-26

     ในบทความนี้กล่าวถึงสมองสองส่วนคือ auditory cortex ประมวลผลเกี่ยวกับเสียง  (where a sound's acoustic features are processed : acoustic=เกี่ยวกับเสียง features=ลักษณะ)     และ amygdala ซึ่งเป็นที่เก็บความทรงจำเรื่องอารมณ์ (the small part of the brain in charge of emotional memory : in charge of=รับผิดชอบ, ทำหน้าที่)
     เมื่อนักวิจัย สแกนสมองของผู้เข้าร่วมทั้งสิบหกคน พบว่าสมองทั้งสองส่วนนี้ทำงานมาก จึงสรุปว่า สมองนั้นรับเสียงผ่าน auditory cortex และส่งสัญญาณไปกระตุ้นสมองส่วน amygdala ซึ่งตอบสนองโดยส่งปฏิกิริยาเชิงลบกลับมาที่ auditory cortex ซึ่งตอบสนองเป็นอย่างรุนแรงต่อเสียงนั้น  โดย ปฏิกิริยาทั้งหมดเกิดเร็วมากจนแทบจะเรียกได้ว่า ทันทีทันใด instantly
     และนักวิจัยหวังว่าจะทดสอบแบบจำลองนี้กับเสียงรูปแบบอื่น ทั้งเสียงไพเราะน่าฟัง เสียงที่ไม่น่าฟังแบบอื่นๆ คำหยาบคาย


Sunday, November 4, 2012

Keep your chin up! - The English we speak

     สัปดาห์นี้ รายการ The English we speak จาก BBC :earning English  เสนอสำนวน "keep your chin up"
เพื่อนๆลองเดาความหมายกันดูก่อนนะครับ

     คราวนี้ เวรา ประสบอบัติเหตุจากการเล่นสกี นอนอยู่ในโรงพยาบาล
     ขณะที่เพื่อนร็อบ มาเยี่ยม เวราก็บ่นใหญ่เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของตัวเอง จนร็อบได้พูดคำว่า "Keep your chin up!"
     เอาล่ะสิ
     "??? ยกคางขึ้น"

     เจ้าสาว เวรา ของเราก็ตื่นเต้นใหญ่ เห็นร็อบ ดูมีความรู้เรื่องการแพทย์ทางเลือก นึกว่าการยกคางขึ้นเป็นวิธีการรักษาอาการปวดแบบใหม่ เลยถามกลับไปว่ามันดีต่อระบบไหลเวียนรึเปล่า พร้อมกับยกคางขึ้น
     ทีนี้ พอร็อบพอเห็นเข้า ก็รู้ว่าเพื่อนเข้าใจผิด เลยเริ่มอธิบายความหมาย

     ร็อบ : เวลาเราบอกให้ใคร keep their chin up เรากำลังให้กำลังใจ บอกให้เขาคิดบวก พูดเชิงบวก ทำอะไรเชิงบวก ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

     ทีนี้ เวรา ก็เข้าใจความหมายและโดนบอกให้พยายามฝึกต่อไป ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ซักวัน ก็จะเล่นสกีได้เก่งเอง

http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/language/theenglishwespeak/2012/10/121030_tews_95_keep_your_chin_up.shtml