doze off คืองีบหลับ จาก 'cause I'll doze off safe and soundly, but I'll miss your arms around me
จากประโยค I'd send a postcard to you, dear. Cause I wish you were here. คำว่า "I'd" "you were"สื่อถึงความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้ โดยอาจใช้ในลักษณะ
: I wish I would be a millionaire.
light blue น่าจะหมายถึงท้องฟ้าตอนเช้า I'll watch the night turn light blue. คือฉันดูพระอาทิตย์กำลังขึ้นส่องแสงตอนเช้าตรู่
repose แปลว่า การนอน จาก I'll find repose in new ways ประโยคนี้น่าจะสื่อถึง ฉันพยายามนอนให้หลับปกติ แต่ทำไม่ได้เพราะคิดถึงเธอ
nostalgia คืออาการคิดถึงอดีต จาก Cause cold nostalgia chills me to the bone. ความหนาวสื่อถึงความเหงา ประโยคน่าจะสื่อ ความอาลัยอาวรณ์ถึงอดีตมันทำให้ฉันหนาวเข้าไปถึงกระดูก คือหนาวจนสุดใจเลย
drench คือ ทำให้เปียกชื้้น
vanilla twilight ไม่แน่ใจจะสื่อถึงอะไร อาจจะหมายถึงสีของท้องฟ้า เป็นสีวานิลลาของเย็นๆ โดยประโยคถัดมาบอกว่า ฉันจะนั่งที่ ระเบียง porch ตลอดค่ำคืน และปล่อยตัวเองจมในความคิด waist-deep คือเปรียบเทียบว่าจมลึกถึงระดับเอว ให้คิดถึงเธอ จะได้ช่วยลดความเหงาลงบ้าง
The violet eyes get brighter. violet eyes ไม่แน่ใจว่าจะหมายถึงอะไร บางที่บอกว่าเป็นดวงตาที่ช้ำจากการร้องไห้ ที่ตอนนี้หยุดร้องแล้ว แต่ผมว่าน่าจะสื่อถึงได้ด้วยว่า เป็นพระอาทิตย์ที่กำลังฉายแสงวันใหม่ตามประโยค
And heavy wings grow lighter. heavy wings อันนี้ก็เหมือนกัน มีตีความหลายแบบ บางคนบอกว่าเป็นความเสียใจหนักอึ้งที่กำลังดีขึ้น ขณะที่บางคนสื่อถึง เมฆครึ้มที่กำลังหายไป
และทำให้ฉันได้สัมผัสท้องฟ้า และรู้สึกดีขึ้นอีกครั้ง กลับมามีชีวิตชีวาอย่างเคย
I'll taste the sky and feel alive again.
ขณะเดียวกัน เขาก็จบเพลงด้วยการบอกว่า ถึงยังไง ตอนนี้อาการเศร้าฉันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่มีทางลืมเธอ และถ้าสามารถกลับไปบอกเธอในอดีตได้ ก็อยากให้เธอมาอยู่ข้างฉันตอนนี้
จากการตีความที่อธิบายไป คิดว่า เพลงนี้ดำเนินเรื่องตามท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่คืนของวันหนึ่ง ผ่านตอนเช้า ตอนเย็นของวันนั้น ไปจนถึงคืนถัดไป และเช้าวันถัดไป ขณะเดียวกัน ท้องฟ้าก็สื่อถึงอารมณ์ต่างไปด้วย
แต่ไม่ว่าจะตีความแตกต่างกันในรายละเอียดอย่างไร เพลงนี้ทำให้ผมเหงา ทรมานถึงหัวใจ เมื่อนึกถึงบรรยากาศ vanilla twilight ที่ฉันเหงาจนอยากจะไปบอกเธอว่า Oh darling, I wish you were here.
ในบทความนี้กล่าวถึงสมองสองส่วนคือ auditory cortex ประมวลผลเกี่ยวกับเสียง (where a sound's acoustic features are processed : acoustic=เกี่ยวกับเสียง features=ลักษณะ) และ amygdala ซึ่งเป็นที่เก็บความทรงจำเรื่องอารมณ์ (the small part of the brain in charge of emotional memory : in charge of=รับผิดชอบ, ทำหน้าที่)
เมื่อนักวิจัย สแกนสมองของผู้เข้าร่วมทั้งสิบหกคน พบว่าสมองทั้งสองส่วนนี้ทำงานมาก จึงสรุปว่า สมองนั้นรับเสียงผ่าน auditory cortex และส่งสัญญาณไปกระตุ้นสมองส่วน amygdala ซึ่งตอบสนองโดยส่งปฏิกิริยาเชิงลบกลับมาที่ auditory cortex ซึ่งตอบสนองเป็นอย่างรุนแรงต่อเสียงนั้น โดย ปฏิกิริยาทั้งหมดเกิดเร็วมากจนแทบจะเรียกได้ว่า ทันทีทันใด instantly และนักวิจัยหวังว่าจะทดสอบแบบจำลองนี้กับเสียงรูปแบบอื่น ทั้งเสียงไพเราะน่าฟัง เสียงที่ไม่น่าฟังแบบอื่นๆ คำหยาบคาย
Ingrid Michaelson เจ้าของเพลง you and I ที่เคยเขียนแนะนำไป
คราวนี้เธอ มาให้สัมภาษณ์สั้นๆ ลองฟังดูว่าสามสิ่งนี้คืออะไร
สามสิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับฉัน Ingrid Michaelson
1. I used to teach children theaters for about 4 years.
จะได้ยินคำว่า I absolutely adore หมายถึงชอบมาก(ไม่เป็นทางการ) และเธอยังบอกว่า I was gonna teach kids...
2. I like to make truffles. All different kinds of truffles
เอ๊ะ truffles คืออะไรกัน เห็ดรึเปล่า?
ที่จริง เป็นขนมอย่างนึง เรียกเต็มๆว่าchocolate truffle ข้างนอกหุ้มด้วยช็อกโกแล็ต ข้างในมีไส้ แล้วแต่จะใส่ แต่ Ingrid บอกว่า ที่เธอทำเก่งที่สุด (I perfected) คือ Grand Marnier raspberry truffles dark chocolate คือทรัฟเฟิลที่ใช้ดาร์กช็อกโกแล็ต แล้วข้างในใส่ราสเบอรรี่กับเหล้า Grand Marnier ฟังดูน่าลองจังเลยนะครับ
3. I love to sleep.!!! ฉันรักการนอน
แม้เธอจะไม่ proud ที่จะพูด แต่ก็ต้องยอมรับว่า I don't function well on less than 8 hour, but I like to get 10 hours at night. จนบางทีที่ต้องมาถ่ายรายการที่เธอโชว์ตามหน้าปกนิตยสาร ต้อง get up really early 7.45!!! จนหน้ามุ่ยไปเลย
I remember when we broke up first time
Saying, "This is it, I've had enough," 'cause like
We hadn't seen each other in a month
When you said you need 1-----. What?!!
Then you come around again and say
"Baby. I miss you and I swear I'm gonna change, 2----- me."
Remember how that 3------ for a day?
I say, "I hate you," we 4----- up, you call me, "I love you."
Oooh we 5------ it --- again last night
But oooh, this time I'm telling you, I'm telling you
**We are never ever ever getting back together
We are never ever ever getting back together
You go talk to your friends, talk to my friends, talk to me
But we are never ever ever ever getting back together
Like, ever...
I'm really gonna miss you picking 6-----
And me, 7------- for it screaming that I'm right
And you, would hide away and find your 8----- of mind
With some 9----- record that's much cooler than mine
Oooh, you called me up again tonight
But Oooh, this time I'm telling you I'm telling you
[**]
I used to think that we were 10------- ever
And I used to say, "Never say 11-----"
Uggg, so he 12----- me up and he's like "I still love you,"
And I'm like... "I just I mean this is 13----------, you know, like,
We are never getting back together. Like ever"
ครั้งนี้ เลิกแล้วเลิกเลย ไม่มีรีเทิร์น... เรามาดูคำศัพท์กันดีกว่า
1. space : คุณพูดว่า คุณต้องการที่ว่าง หมายถึงพื้นที่ส่วนตัว (บางทีก็อยากอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวบ้าง)
2. trust : Trust me! เชื่อฉันสิ! เป็นคำพูดที่ใช้เรียกความเชื่อใจ ให้สัญญา
3. lasted : last ในที่นี้ไม่เป็นadj.หมายถึงท้ายสุด แต่เป็นv.หมายถึง คงอยู่ Remember how that lasted for a day จำได้ไหมว่าไอ้ที่คุณเปลี่ยนน่ะ มันก็อยู่ได้แค่วันเดียว last-minute adj. ในวินาทีสุดท้าย(เพิ่งตัดสินใจ)
long-lasting adj. คงอยู่ยาวนาน
4. break : break up เลิกกัน หรือคำอื่นที่มีความหมายใกล้เคียง
split up แยกทาง
dump ทิ้ง eg. He dumped me. เขาทิ้งฉัน
5. called (it) off : บอกเลิก หรืออาจใช้ว่า ยกเลิก ก็ได้ eg. They called off the meeting tonight
6. fight : I'm really gonna miss you picking fight ฉันต้องคิดถึงตอนเธอพาลหาเรื่องแน่ๆ
provoke ยั่วยุ provoke a fight ยุให้ทะเลาะ
7. falling : falling for screaming that I'm right หลงพลาดที่ไปตะโกนบอกว่าฉันถูก(ก็เลยเป็นเรื่อง! ทะเลาะกัน)
แต่คำว่าfall for ยังมีอีกความหมายนอกจาก หลงเชื่อ คือ ตกหลุมรัก eg. I think I'm fallling for you.
8. peace : ความสงบสุข
9. indie : อินดี้ ย่อมากจาก independentซึ่งแปลว่า อิสระ ไม่ขึ้นกับอะไร
คือ ไปหาที่สงบๆ ฟังเพลงอินดี้ ที่ ดีกว่าเจ๋งกว่า แฟนตัวเอง
10. forever : we were forever เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
11. never : "Never say never" อย่าพูดว่าไม่มีทาง
12. called : ยื้ออออ!!! เขาโทรมาแล้วก็บอกว่า ฉันยังรักคุณอยู่นะ(พูดแบบประชด)
13. exhausting : น่าหมดแรง เฮ้อ!เพลีย
แต่ว่า exhaustive แปลว่าอย่างละเอียดถี่ถ้วน thorough
exhaust pipe ท่อไอเสีย
exhaustible ใช้แล้วหมดไป ตรงข้ามกับinexhaustible eg. Fossil fuel is exhaustible.